您现在的位置是:时尚 >>正文
ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คาดปี 69 ต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่ม 4% แต่ใช้จ่ายต่อทริปยังต่ำ
时尚3934人已围观
简介นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเ ...
ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดปีต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่มแต่ใช้จ่ายต่อทริปยังต่ำtelegram中文下载
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทย พบ 4 ข้อสังเกต ได้แก่ 1. ผลต่างระหว่างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยกับค่าใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวต่างประเทศ มีแนวโน้มลดลงเกือบเท่าตัว 2. สัญญาณการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันชัดเจนขึ้น 3. ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปและอินเดียยังทดแทนจีนและอาเซียนไม่ได้ทั้งหมด และ 4. การกระจายความหนาแน่นจากเมืองท่องเที่ยวหลักไปสู่เมืองรอง ยังต้องทำอีกมาก
นางสาววาริธร ศิริสัตยะวงศ์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ในปี 2569 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะฟื้นตัวจากการกลับมาของตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยคาดว่าจะมีจำนวน 34.1 ล้านคน หรือโต 4%จากที่หดตัว 7% ในปี 2568 แม้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายได้การท่องเที่ยว และค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อทริปที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด เมื่อมาถึงจุดที่การเพิ่มจำนวนทำได้ยาก ดังนั้น การเพิ่มรายได้คงต้องหาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงอย่างการเจาะตลาดกลุ่มกิจกรรมบันเทิง การจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการ (MICE) เช่น การจัดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลก เป็นต้น รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก หรือการดึงสวนสนุกระดับโลกมาลงทุนในไทย ตลอดจนตลาดกลุ่มเดินทางเพื่อสุขภาพและรักษาพยาบาล แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทำตลาดได้ดีนักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า
นางสาววรรณวิษา ศรีรัตนะ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจด้านการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพ (Medical & Wellness) แม้จะเป็น 1 ในเครื่องมือที่ช่วยดันรายได้ท่องเที่ยว แต่ยังมีโจทย์ที่ต้องแก้ โดยเฉพาะเรื่องตลาดคนไข้หลักที่ลดลง การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอยู่ ทำให้ปี 2569 คาดว่าจำนวนและรายได้คนไข้ต่างชาติโตชะลอที่ 0.4% และ 3.7% ตามลำดับ ซึ่งหากต้องการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว ไทยต้องโฟกัสไปที่การแพทย์เฉพาะทางที่มีระยะเวลาในการรักษาและพักฟื้นนานขึ้น รวมถึงขยายบริการสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) ที่สอดรับกับเทรนด์โลก เช่น Longevity และแนวโน้มการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เพิ่มขึ้น
โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มี 4 ข้อเสนอเพื่อให้การท่องเที่ยวไทยไปต่อ ได้แก่ 1. การฟื้นความเชื่อมั่น ซึ่งตลาดระยะใกล้ยังสำคัญ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน หลังสัดส่วนลดลงเท่าตัวจากก่อนโควิดมาอยู่ที่ราว 14% 2. เน้นเร่งเพิ่มการใช้จ่ายต่อทริปผ่านผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ไทยมีจุดเด่น ผ่านการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและการเติมเต็ม Ecosystem 3. จูงใจคนไทยเที่ยวในประเทศ และ 4. ผลักดันเมืองท่องเที่ยวรองด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น เช่น Geographical Indicationsเป็นต้น
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทย พบ 4 ข้อสังเกต ได้แก่ 1. ผลต่างระหว่างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยกับค่าใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวต่างประเทศ มีแนวโน้มลดลงเกือบเท่าตัว 2. สัญญาณการสูญเสียความสามารถในการแข่งขันชัดเจนขึ้น 3. ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปและอินเดียยังทดแทนจีนและอาเซียนไม่ได้ทั้งหมด และ 4. การกระจายความหนาแน่นจากเมืองท่องเที่ยวหลักไปสู่เมืองรอง ยังต้องทำอีกมาก
นางสาววาริธร ศิริสัตยะวงศ์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ในปี 2569 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะฟื้นตัวจากการกลับมาของตลาดนักท่องเที่ยวจีน โดยคาดว่าจะมีจำนวน 34.1 ล้านคน หรือโต 4%จากที่หดตัว 7% ในปี 2568 แม้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายได้การท่องเที่ยว และค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อทริปที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด เมื่อมาถึงจุดที่การเพิ่มจำนวนทำได้ยาก ดังนั้น การเพิ่มรายได้คงต้องหาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงอย่างการเจาะตลาดกลุ่มกิจกรรมบันเทิง การจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการ (MICE) เช่น การจัดคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลก เป็นต้น รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก หรือการดึงสวนสนุกระดับโลกมาลงทุนในไทย ตลอดจนตลาดกลุ่มเดินทางเพื่อสุขภาพและรักษาพยาบาล แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากทำตลาดได้ดีนักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า
นางสาววรรณวิษา ศรีรัตนะ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจด้านการแพทย์และส่งเสริมสุขภาพ (Medical & Wellness) แม้จะเป็น 1 ในเครื่องมือที่ช่วยดันรายได้ท่องเที่ยว แต่ยังมีโจทย์ที่ต้องแก้ โดยเฉพาะเรื่องตลาดคนไข้หลักที่ลดลง การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอยู่ ทำให้ปี 2569 คาดว่าจำนวนและรายได้คนไข้ต่างชาติโตชะลอที่ 0.4% และ 3.7% ตามลำดับ ซึ่งหากต้องการเพิ่มรายได้ท่องเที่ยว ไทยต้องโฟกัสไปที่การแพทย์เฉพาะทางที่มีระยะเวลาในการรักษาและพักฟื้นนานขึ้น รวมถึงขยายบริการสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) ที่สอดรับกับเทรนด์โลก เช่น Longevity และแนวโน้มการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เพิ่มขึ้น
โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มี 4 ข้อเสนอเพื่อให้การท่องเที่ยวไทยไปต่อ ได้แก่ 1. การฟื้นความเชื่อมั่น ซึ่งตลาดระยะใกล้ยังสำคัญ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน หลังสัดส่วนลดลงเท่าตัวจากก่อนโควิดมาอยู่ที่ราว 14% 2. เน้นเร่งเพิ่มการใช้จ่ายต่อทริปผ่านผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ไทยมีจุดเด่น ผ่านการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและการเติมเต็ม Ecosystem 3. จูงใจคนไทยเที่ยวในประเทศ และ 4. ผลักดันเมืองท่องเที่ยวรองด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น เช่น Geographical Indicationsเป็นต้น
Tags:
转载:欢迎各位朋友分享到网络,但转载请说明文章出处“铁石心肠网”。http://5876589.telegramur.com/html/29b5499916.html
相关文章
小学班主任师德师风工作计划
时尚小学班主任师德师风工作计划时间的脚步是无声的,它在不经意间流逝,我们又将续写新的诗篇,展开新的旅程,我们要好好计划今后的学习,制定一份计划了。那么计划怎么拟定才能发挥它最大的作用呢?以下是小编整理的小 ...
【时尚】
阅读更多11月7日13时38分立冬 立冬补冬吃什么养生
时尚今天13时38分,立冬。①“立,建始也”,立冬标志着冬季的开始;②“三日寒、四日暖”,冷空气活动开始频繁,降温后又回暖;③“立冬补冬,补嘴空 ...
【时尚】
阅读更多深圳迳口社区垃圾分类知识讲座
时尚深圳迳口社区垃圾分类知识讲座为了让青少年懂得学会垃圾分类的知识,深入明白垃圾分类来源。近日迳口社区党群服务中心在生育文化中心,开展了垃圾分类知识讲座,本次活动吸引了18名青少年参加。在讲座上,社工首先 ...
【时尚】
阅读更多